Tag Archives: การทำลายอัตตาของตน

 “ปาฏิหาริย์แห่งการหยุดคิด” หนังสือที่ใช้ตาอ่าน แต่ใช้ใจคิดตาม

“ชีวิตที่แท้จริง จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเราตระหนักได้ว่า เราจำเป็นต้องใช้ชีวิตโดยผ่านทัศนคติของการไร้ตัวตน” คำพูดหนึ่งประโยคจากเจ้าของหนังสือที่เป็นใจความสำคัญของหนังสือทั้งเล่ม

หนังสือเล่มนี้เขียนโดย พศิน อิทรวงศ์ นักพัฒนาตัวเอง และเป็นผู้มีความปรารถนาในชีวิตว่าอยากจะบรรลุธรรม เขาได้ศึกษาหลาย ๆ อย่างในตัวเอง พร้อมด้วยการศึกษาเกี่ยวกับศาสน าเพื่อที่จะเอามาพัฒนาความคิด การกระทำของตนและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ เขาเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงสติของตนเองอย่างแท้จริง และให้เป็นผู้อยู่เหนือความคิดได้สำเร็จ

ทัศนคติ คือตัวกำหนดการกระทำทุกอย่าง แต่ในที่นี้ ไม่ได้เหมือนบทความหลาย ๆ บทความที่เราเคยอ่านกัน ที่ว่าเพียงเรามีทัศนคติที่ดีแล้ว การกระทำเราจะดี แต่เล่มนี้กลับเขียนถึง ทัศนคติของการทำลายอัตตาตัวตน ชีวิตที่อยู่เหนือสิ่งเร้ารอบตัวทั้งปวง ชีวิตที่ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งใดใดทั้งสิ้น แม้แต่ร่างกายของตนเอง ในเล่ม จะมีอยู่ 4 ภาค คือ ความรัก, เมตตาเพื่อนมนุษย์, คุณค่าชีวิต และจิตตื่นรู้

แต่สิ่งที่คนบนโลกนี้อ่อนไหวมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือเรื่องของ “ความรัก” ดังนั้นผู้เขียนได้เล่าถึงความรักในแบบของการครอบครองรักแท้ไว้ว่า “ผู้มีสิทธิ์ครอบครองรักแท้ จะต้องเป็นผู้ที่มีรักแท้ แม้จะอยู่คนเดียวก็ตาม” คนหลายคนที่ได้อ่านข้อความนี้คงสับสนเลยทีเดียว เพราะอาจคิดว่า จะมีแฟนหรือมีคนรัก เขาคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่มาเติมเต็มให้กันและกันสิ คนเราจะมีความรักแม้อยู่คนเดียวได้อย่างไร หรือว่านั่นคือการรักตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็เป็นการ เห็นแก่ตัว หรือเปล่า? จริง ๆ แล้วถ้าคุณลองอ่านข้อความต่อจากนี้ อาจจะเข้าใจมากขึ้น ผู้เขียนได้พูดอยู่ประโยคหนึ่งที่เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า “เป็นผู้เต็มพร้อมอยู่แล้ว ไม่ใช่ผู้ขาดแคลน” พอได้อ่านก็ความนี้แล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันที ว่าถ้าคุณขาดแคลนสิ่งหนึ่ง คุณจะแบ่งปันให้คนอื่นได้อย่างไร

เหมือนกับคุณมีน้ำอยู่ครึ่งของครึ่งแก้ว ดื่มคนเดียวยังแทบไม่พอเลย แต่ถ้าเกิดคุณมีน้ำเต็มแก้วล่ะ อยากแบ่งปันให้คนอื่นดื่มก็ยังได้ ในเมื่อน้ำที่เป็นรูปธรรมนั้นมีวันหมด แต่ความรักที่เป็นนามธรรม มันคือสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ และมันมหัศจรรย์มากตรงที่ เติมตอนไหนก็ได้โดยไม่ต้องซื้อ และยังแบ่งให้คนอื่นได้อีก เราให้ ไม่ได้เอาจากเขา นี่แหละคือการไม่เห็นแก่ตัว ในหมวดความรัก ผู้อ่านจะได้รู้หนทางการรักตนเองที่ถูกต้อง การใช้ภาษาที่ส่งออกไปจากความรู้สึกรัก การปล่อยวางจากความกลัว คำพูดที่จะทำให้ผู้อ่านสะเทือนใจ และตั้งสติขึ้นมาได้จากการมีความรัก

ในบทอื่น ๆ ผู้อ่านจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ความธรรมดาที่สวยงาม พลังแห่งอัตตาที่มาในคราบของปัญญา ความทุกข์ที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาการอยู่โดยใช้ปัญญา การมองปัจจุบัน ความบริสุทธิ์ รวมถึงการมองทุกสิ่งตามแบบฉบับที่มันเป็น สิ่งเหล่านี้ ผู้เขียนได้อธิบายถึงการเข้าถึงและเข้าใจในแต่ละสิ่ง อธิบายว่าชีวิตของคนเราว่าต้องไหลไปตามกระแสน้ำอยู่แล้ว ยังไงก็ห้ามไม่ได้ กับความธรรมดาที่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อให้เห็น นั่นก็คือคำว่า “ท่านกำลังโยนสิ่งใดขึ้นฟ้า” ว่าเมื่อคุณโยนสิ่งใดขึ้นไป สิ่งนั้นก็จะตกมาหาคุณเช่นกัน มีการยกตัวอย่างสั้น ๆ ในหลาย ๆ แง่มุมเกี่ยวกับกฎนี้ เชื่อว่าคนที่ได้อ่านจะได้ลองเอามาใช้กับชีวิตตัวเองได้อย่างระมัดระวังและมีสติมากขึ้น

ทั้งหมดทั้งมวลผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจธรรมชาติของโลก และของมนุษย์ ความหมายที่เที่ยงแท้ของทุกสรรพสิ่งว่ายังไงก็ต้องมีเกิดมาและดับไป รวมถึงการสื่อที่ว่า ท้องฟ้ายังไงก็เป็นท้องฟ้า เราอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน แต่ทำไมคนแต่ละคนจึงมองฟ้าเป็นคนละแบบไปได้? ทำไมคนจึงสามารถทำให้สิ่งที่มีอยู่แล้วเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เปลี่ยนไปได้ด้วยสิ่งที่ตนคิด, การกล่าวโทษสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นบนโลก และเหตุใดเราจึงไม่เคยเห็นความบริสุทธิ์ที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งที่มันก็อยู่ในตัวเราเสมอ

สิ่งเหล่านี้ผู้เขียนจะทำให้กระจ่างในสิ่งที่เราอาจสงสัยกันมานาน และยังหาคำตอบกันไม่ได้ซักที บางทีเล่มนี้อาจเป็นคำตอบให้คุณได้ แนวทางที่จะทำให้มองทุกอย่างเป็นจริงในสิ่งที่มันเป็นอยู่แล้ว แนวทางที่ทำให้เจอความบริสุทธิ์โดยแท้ในหัวใจ และอีกหลายแง่มุมที่คุณอาจไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ได้อ่านจะช่วยคุณเข้าใจชีวิต หลุดพ้นจากสิ่งที่คุณเป็นอยู่ได้ รวมถึงสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของชีวิตด้วยเช่นกัน และไม่ว่าอย่างไรก็ตามแต่ละหัวข้อ ถ้าเอาไปปฏิบัติจริง อาจมีหลายคนที่บอกว่า “ยาก” ที่จะทำ ถึงแม้มันอาจจะไม่ง่าย แต่อย่างน้อย ถ้าคุณสามารถทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้ มันก็น่าคุ้มค่าที่จะทำอยู่ดี