“คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ชายผู้อุทิศตนเพื่อการฝึกซ้อม

แม้จะอายุจะเกือบ 35 ปีแล้ว แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงมีสภาพร่างกายที่ฟิตไม่ต่างจากนักเตะวัยหนุ่ม จนสามารถลงเล่นให้ต้นสังกัดอย่างยูเวนตุสได้ตลอด 90 นาทีเต็มในทุกเกม แถมยังทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม ผลิตสกอร์ให้ทีมม้าลายไปแล้ว 6 ประตู จากการลงเล่น 12 นัดทุกรายการ โดยสภาพร่างกายที่สมบูรณ์นี้เป็นผลมาจากการจากฝึกซ้อมอย่างหนักและการใส่ใจดูแลร่างกายอย่างดีในทุก ๆ วัน จนได้รับการชื่นชมจากคนใกล้ชิดอยู่เป็นประจำ

คาร์ลอส เตเบซ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งคนที่ยืนยันถึงการทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมของโรนัลโด้ โดยเล่าว่าโรนัลโด้จะมาถึงโรงยิมเป็นคนแรกเสมอ แม้สโมสรจะนัดซ้อมตอน 9 โมง แต่ไม่ว่าเตเบสจะมาถึงโรงยิมตอน 8 โมง หรือ 7 โมง ก็จะเห็นโรนัลโด้อยู่ที่นั้นทุกครั้ง จนครั้งหนึ่งศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ต้องการรู้ว่าโรนัลโด้มาซ้อมกี่โมงกันแน่ จึงรีบไปถึงโรงยิมตั้งแต่ 6 โมง แต่กลับพบว่าดาวยิงโปรตุเกสก็มาถึงก่อนเขาอีกแล้ว

ในหัวของโรนัลโด้มีแต่เรื่องการฝึกซ้อมและการดูแลตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ยามพักผ่อนอยู่กับบ้าน แพทริค เอฟร่า อดีตเพื่อนร่วมทีมอีกคนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด รู้ซึ้งถึงเรื่องนี้ดี ครั้งหนึ่งแบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสตอบรับคำชวนไปทานอาหารที่บ้านโรนัลโด้ เมื่อไปถึงสิ่งที่เขาพบบนโต๊ะอาหารกลับเป็นอาหารสุขภาพอย่างสลัดผักและเนื้อไก่แห้ง ๆ แทนที่จะเป็นสเต็กอย่างที่หวัง นอกจากนั้นยังเสิร์ฟเพียงน้ำเปล่า ไม่มีแม้แต่น้ำผลไม้ แถมเมื่อทานเสร็จเจ้าบ้านก็เอาลูกบอลมาโชว์ทักษะ ก่อนจะลากไปสระว่ายน้ำ ไปซาวด์หน้า และแช่อ่างจากุซซี่ ราวกลับว่าพรุ่งนี้ทั้งคู่จะลงสนามแข่งขัน จนเอฟร่าต้องเตือนทุกคนเมื่อถูกชวนไปที่บ้านโรนัลโด้ พร้อมกับบอกด้วยว่าซุเปอร์สตาร์โปรตุเกสไม่ใช่คน แต่เป็นเครื่องจักรที่ไม่มีวันหยุดพัก

เอฟร่ายังเสริมอีกว่าโรนัลโด้เป็นพวกต้องการชัยชนะตลอดเวลา โดยยกเหตุการณ์เมื่อครั้งที่โรนัลโด้แข่งตีปิงปองแพ้ให้กับริโอ เฟอร์ดินานด์ สร้างความหัวเสียให้กับโรนัลโด้อย่างมาก รุ่งขึ้นเขาสั่งซื้อโต๊ะปิงปองมาไว้ที่บ้านทันที หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ก็ไม่มีใครเอาชนะโรนัลโด้ได้อีกเลย

ถึงจะฝึกซ้อมอย่างหนักแต่โรนัลโด้ก็ไม่ลืมรักษาสภาพร่างกายให้ผ่อนคลาย โดยเขาชอบดื่มชากับน้ำผึ้ง และอาบน้ำร้อนประมาณ 20 นาทีในคืนก่อนการแข่งขัน รวมถึงการทำวารีบำบัดหลังการฝึกซ้อมและการแข่งขันอันหนักหน่วงด้วย ถึงขนาดที่ โจวานนี่ เมารี โค้ชฟิตเนสของเรอัล มาดริด ยังทึ่งกับความทุ่มเทของโรนัลโด้ โดยเล่าว่า แม้การแข่งขันจะจบดึกขนาดไหน โรนัลโด้จะเป็นคนเดียวที่ยังไม่ยอมกลับบ้าน โดยเลือกที่จะอยู่ที่ศูนย์ฝึกเพื่อทำการบำบัดสภาพร่างกายเสียก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายของเขาฟื้นตัวได้ดีหลังเกมการแข่งขัน

ทั้งหมดทั้งมวลจึงไม่น่าแปลกใจที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยคว้าแชมป์ไปถึง 31 รายการ ได้รับรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัลลงดอร์ 5 สมัย, ผู้เล่นยอดเยี่ยมทุกลีกที่ลงทำการแข่งขัน และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 13 สมัยติดต่อกัน ซึ่งเกียรติยศต่าง ๆ คงไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ เมื่อเขายังคงแสวงหาชัยชนะอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เพื่อการเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์

เดรดิตภาพ: https://i.dailymail.co.uk/i/newpix/2018/08/01/23/4EBFCBFC00000578-6017165-image-a-38_1533161172719.jpg