ฟุตบอลไทย ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเกือบศตวรรษ

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเรามีกีฬาประจำชาติ คือ มวยไทย และตะกร้อ แต่ด้วยลักษณะนิสัยของคนไทยที่สามารถเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่าย จึงทำกีฬาที่มีความเป็นสากลอีกหลายประเภทได้รับความนิยมไปด้วยเช่นเดียวกัน หนึ่งในนั้นก็คือกีฬาฟุตบอลที่ได้รับความนิยมจากคนไทยทุกเพศ ทุกวัย และความใฝ่ฝันที่แฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศต้องการให้เกิดขึ้นมาโดยตลอดคือการได้เห็นทีมชาติไทยได้ไปโลดแล่นอยู่ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ คณะฟุตบอลสยามจึงได้ถือกำเนิด

แรกเริ่มเดิมทีในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงส่งพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารไปศึกษาวิชาการด้านต่าง ๆ ณ ประเทศอังกฤษเพื่อนำวิชาความรู้กลับมาพัฒนาประเทศไทย โดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นผู้ที่นำกีฬาฟุตบอลกลับมาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นคนแรกภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ บ้างก็ว่าเป็นกีฬาที่ไม่เหมาะภูมิอากาศของไทยที่ค่อนข้างร้อน และอีกหลายฝ่ายที่เห็นว่าเป็นการแข่งขันที่อันตรายต่อผู้เล่นมากเกินไป ในยุคสมัยแรกนี้กีฬาฟุตบอลจึงยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย

ฟุตบอลไทยเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความสนพระทัยในกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้ง “สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์” ขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 พร้อมทั้งได้ตราข้อบังคับของสมาคมฯ ภายใต้โครงสร้างการบริหารสมาคมโดยคณะสภากรรมการ และในปีเดียวกันนั้นเองประเทศไทยก็ได้ถือกำเนิดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ (ถ้วยพระราชทานประเภท ก) และฟุตบอลถ้วยน้อย (ถ้วยพระราชทานประเภท ข) ขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 เมื่อประเทศสยามได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศสยามฯ จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” มาจนถึงทุกวันนี้

บอลไทยก้าวไปข้างหน้าเพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียว…ฟุตบอลโลก

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้คณะฟุตบอลสยามสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ตามหนังสือเชิญของ จูล ริเมท์ ประธานฟีฟ่าในขณะนั้น ซึ่งเป็นชาติแรกในทวีปเอเชียที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก FIFA และนับเป็นลำดับที่ 37 ของโลก อันถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญของฟุตบอลไทยในเวทีสากล

จากวันที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก FIFA นับเป็นเวลากว่า 90 ปี แม้ว่ามาตรฐานฟุตบอลไทยในปัจจุบันจะยังไม่ใกล้เคียงกับการได้เข้าไปสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก โดยเมื่อต้นปี 2019 ทีมชาติไทยอยู่ในอันดับ 115 ของโลก แต่ชาวไทยก็ยังคงสนุก และมีความสุขที่ได้ลุ้นได้เชียร์ทีมชาติไทยอยู่เสมอ ดังนั้น เป้าหมายร่วมกันของสมาคมฯ นักฟุตบอล และกองเชียร์ชาวไทย ที่จะได้เห็นทีมชาติไทยได้ไปวาดแข้งในฟุตบอลโลก ย่อมเป็นพลังขับเคลื่อนให้วงการฟุตบอลไทยจะยังคงเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในเร็ววัน และหากวันนั้นมาถึงประเทศไทยคงตลบอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุขที่รอคอยมาอย่างยาวนาน