Tag Archives: เลสเตอร์ ซิตี้

เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาทวงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัว

หลังจากเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมบังเหียนของเคลาดิโอ รานิเอรี่ หักปากกาเซียนผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่เมื่อฤดูกาล 2015-16 ทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้เพียงแค่ 2 ปี ทีมจิ้งจอกสยามก็ฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย กลายเป็นทีมกลางตารางมาตลอด 3 ฤดูกาลหลัง จนต้องเปลี่ยนกุนซือกลางสนามรบไปถึง 2 คน ก่อนที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะเข้ามารับช่วงต่อและสามารถพาเลสเตอร์ ซิตี้ทะยานขึ้นสู่หัวตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน

ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมว่าต้องการเห็นลูกทีมมีความทุ่มเท และทัศนคติเชิงบวก โดยต้องการสร้างทีมที่เล่มเกมบุกอย่างดุดัน ทั้งตอนที่เป็นฝ่ายครองบอลและไม่มีบอล ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกแสดงออกมาบนสนามในยามที่นักเตะจิ้งจอกลงทำการแข่งขัน โดยนักเตะทุกคนเล่นกันอย่างมีวินัยในเกมรับ และช่วยกันสร้างสรรค์เกมในยามเป็นฝ่ายรุก จนสามารถรั้งตำแหน่งอันดับ 3 ด้วยผลงาน 23 คะแนนจากการลงสนาม 11 นัดแรก

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทีมจิ้งจอกกระโจนได้สูงอยู่ในตอนนี้คงหนีไม่พ้นการกลับมาเป็นเพชฌฆาตถล่มประตูอีกครั้งของเจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีมที่ยิงไปแล้ว 10 ประตู นำเดียวเป็นดาวซัลโวประจำพรีเมียร์ลีก โดยสามารถยิงแฮตทริกได้ในเกมถล่มเซาแธมป์ตัน 9-0 ซึ่งถือเป็นสถิติชัยชนะสูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะอิปสวิชได้ด้วยสกอร์เดียวกันเมื่อปี 1995 แถมเกมนั้นอโยเซ่ เปเรซ ยังเป็นนักเตะอีกคนที่ทำแฮตทริกได้ นับเป็นครั้งที่สองของพรีเมียร์ลีกที่นักเตะ 2 คนจากทีมเดียวกันสามารถยิงแฮตทริกได้ในเกมเดียวกัน ต่อจากเจอร์เมน เพนแนนท์ และโรแบร์ ปิแรส ที่ช่วยกันยิงให้อาร์เซน่อลเอาชนะเซาแธมป์ตันไปได้ 6-1 ในปี 2003

นอกจากความยอดเยี่ยมในเกมบุกแล้ว เกมรับที่แข็งแกร่งก็มีส่วนช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในช่วงต้นฤดูกาล โดยเสียไปเพียง 8 ประตู น้อยกว่าคู่แข่งร่วมลีกทุกทีม ทั้งที่ก่อนเปิดฤดูกาลทีมต้องเสียปราการหลังคนสำคัญอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์ไปให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่คักลาร์ โซยุนคู ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนได้อย่างไร้ที่ติ และจับคู่กับจอนนี่ อีแวนส์ได้อย่างลงตัว

แม้ในตอนแรกเป้าหมายของเลสเตอร์ ซิตี้จะต้องการแค่จบในอันดับท็อปโฟร์ เพื่อกลับไปเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเท่านั้น แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำที่ดีรวมไปถึงนักเตะที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง ทำให้ทีมจิ้งจอกก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของเบรนแดน ร็อดเจอร์สที่ได้รับโอกาสให้แก้มืออีกครั้ง หลังจากไม่อาจพาลิเวอร์พูลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เมื่อฤดูกาล 2013-14 ทั้งที่ลูกทีมของเขายิงคู่แข่งได้เกิน 100 ประตู โดยตามหลังจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้เพียง 2 คะแนนท่านั้น

เดรดิตภาพ: https://ichef.bbci.co.uk/onesport/cps/624/cpsprodpb/46A9/production/_109298081_gettyimages-1182075871.jpg